โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือ 1 โลกจากเซอร์เบีย เปิดเผยรู้สึกเสียใจอย่างมากต่อการกระทำของตนเอง ที่ตีบอลใส่กรรมการขานเส้นหญิงจนได้รับบาดเจ็บแบบไม่ได้ตั้งใจ และนำมาสู่การถูกปรับตกรอบ แกรนด์ สแลม ยูเอส โอเพน อันอื้อฉาว
ยอโควิช ถูกฝ่ายจัดการแข่งขัน ยูเอส โอเพน ปรับแพ้ฟาล์ว ตกรอบ 16 คนสุดท้ายที่ ฟลัชชิง เมโดว์ส จากการตีบอลใส่กรรมการหญิงที่อยู่ด้านหลังคอร์ตในเซตแรก โดยบอลพุ่งไปกระแทกคอของกรรมการคนดังกล่าวจนถึงกับล้มลงไปไอค่อกแค่ก
กฏของการแข่งขัน แกรนด์ สแลม ระบุว่าห้ามนักเทนนิสทำร้ายหรือคุกคามกรรมการในสนามไม่ว่ากรณีใด และจะถูกลงโทษให้แพ้ฟาล์วทันทีไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ ซึ่งนั่นทำให้หวดวัย 33 ปี หมดสิทธิลุ้น แกรนด์ สแลม ใบที่ 18 ที่สหรัฐอเมริกา ในบัดดล รวมถึงถูกริบเงินรางวัลที่ทำได้ และไม่มีแต้มสะสมในรายการนี้
ทีแรกนั้น ยอโควิช ปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์สื่อถึงกรณีดังกล่าว กระนั้นเวลาต่อมา หวดเลือดเซิร์บ ออกแถลงการณ์ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โดยใจความสำคัญคือยอมรับความผิดและยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจทำให้กรรมการขานเส้นบาดเจ็บ สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากอาการหัวเสียที่โดน พาโบล คาร์เรโน่ บุสต้า คู่แข่งชาวสเปน เบรคเกมเสิร์ฟ
“จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทำให้ผมรู้สึกเสียใจและว่างเปล่าเหลือเกิน ผมเสียใจอย่างมากที่ทำให้เธอรู้สึกเครียด มันเป็นเรื่องที่ผมไม่ตั้งใจ สำหรับการถูกปรับแพ้ฟาล์วนี้ ผมต้องกลับไปจัดการกับความผิดหวังและให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนสำหรับผมต่อการเติบโตในฐานะนักเทนนิสและมนุษย์คนหนึ่ง”
“ผมขอแสดงความขอโทษต่อผู้จัดการแข่งขัน ยูเอส โอเพน และทุกคนที่มีส่วนต้องรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของผมนี้” นักหวดมือ 1 ของโลก เปิดเผย
ทั้งนี้ โซเรน ฟรีเมล หนึ่งในกรรมการของทัวร์นาเมนต์ ที่ร่วมตัดสินให้ “โนเล่” ตกรอบจากพฤติกรรมนี้ เปิดเผยว่า “สองปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินคือการกระทำและผลลัพธ์ แม้เขาจะไม่มีเจตนา แต่ผลของการตีบอลใส่กรรมการและชัดเจนว่าเธอได้รับบาดเจ็บ คือเรื่องสำคัญที่มีผลในการตัดสิน”
“การปรับแพ้ฟาล์วต่อนักกีฬาเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก มันไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นนักกีฬาอันดับ 1 หรือใครก็ตามที่อยู่บนคอร์ตนี้ แต่คุณจำเป็นต้องแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมและตัดสินใจให้ถูกต้อง ซึ่งทุกคนในสนามนั้นรู้อยู่แล้วว่ามีอะไรเป็นสิ่งเดิมพัน”